ANTIG 19
หน้าร้าน ©ANTIG 19 : ไปที่หน้า Google พิมพ์คำว่า ANTIG ตามด้วยตัวเลข เช่น ANTIG 1 หรือ ANTIG 18 , ANTIG 102 ท่านจะพบกับร้านค้าของเรา


ชื่อวัตถุมงคล : 050 พระอิศวร หรือ พระศิวะ กับ พระแม่ปราวตีหรือพระแม่อุมามหาเทวี ปางประทานพร
ประเภท : เปิดให้บูชา
: รายละเอียด :

พระอิศวร หรือ พระศิวะ กับ พระแม่ปราวตีหรือพระแม่อุมามหาเทวี ปางประทานพร ของเก่า มาจากประเทศอินเดีย อายุหลายสิบปี ขนาดกว้าง 10 นิ้ว ความสูง 12 นิ้ว ทำจากแผ่นพลาสติก ด้านหลังปิดด้วยกระดาษ


พระอิศวร หรือ พระศิวะ (ภาษาอังกฤษ : Shiva, Mahesh) (ภาษาฮินดี:) หรือชาวจีนเรียกว่า พระยกอ๋องซ่งเต เป็นเทพตามความเชื่อของชาวฮินดู มีพาหนะ คือ โคเผือก ชื่อว่า อุศุภราช พระอิศวรเป็นมหาเทพแห่งการทำลาย มีกายสีขาว แต่พระศอเป็นสีดำเพราะเมื่อตอนที่พระนารายณ์และเหล่าเทวดา อสูร ทำพิธีกวนสมุทรโดยใช้พญานาคเป็นตัวฉุดเขาพระสุเมรุนั้น ใช้เวลากวนนานมาก พญานาคจึงคลายพิษออกมาปกคลุมไปทั่วโลก พระศิวะ จึงว่าเกรงจะเป็นภัยต่อมนุษย์และสิ่งมีชีวิตในโลกจึงได้สูบเอาพิษเหล่านั้นไว้จึงทำให้ คอของพระศิวะเป็นสีดำนั้นเอง มีพระเนตรถึง ๓ ดวง ดวงที่ ๓ อยู่กลางพระนลาฎ ซึ่งตามปกติจะหลับอยู่ เนื่องจากพระเนตรดวงที่ ๓ นี้ มีอานุภาพร้ายแรงมาก หากลืมขึ้นเมื่อใดจะเผาผลาญทุกอย่างให้มอดไหม้ ประทับอยู่ ณ เขาไกรลาส อันเป็นศูนย์กลางแห่งจักรวาล มีมเหสีคือ พระแม่อุมา รูปลักษณ์ของพระอิศวร โดยมากจะปรากฏให้เห็นเป็นชายผมยาว มีพระจันทร์เป็นปิ่นปักผม มีลูกประคำหรือกะโหลกมนุษย์เป็นสังวาล มีงูเห่าพันรอบพระศอ นุ่งห่มหนังเสืออันเป็นเครื่องนุ่งห่มของฤๅษี การบูชาพระอิศวรจะกระทำได้โดยการบูชาต่อศิวลึงค์อันเป็นสัญลักษณ์แทนตัวพระองค์นั่นเอง




พระอิศวรมีท่าร่ายรำอันเป็นการร่ายรำของเทพเจ้า เรียกว่า "ปางนาฏราช"(nataraja) เมื่อแปลงกายลงไปปราบฤๅษีที่ไม่ประพฤติตนอยู่ในเพศดาบส ซึ่งต่อมาชาวฮินดูได้ถือเอาท่าร่ายรำนี้เป็นต้นแบบของการร่ายรำต่าง ๆ มาตราบจนปัจจุบัน

พระอิศวรยังถือว่าเป็นเจ้าแห่งผีอีกด้วย โดยมีพระนาม

เรียกว่า "ปีศาจบดี"



พาหนะ



ขอบคุณภาพจากmahathep.com


โคที่มีนามว่า อุศุภราช คือ โคเผือกที่เป็นพาหนะประจำขององค์พระศิวะ

ในบางคัมภีร์นั้นก็กล่าวถึงประวัติการกำเนิดของโคนนทิราชนี้แตกต่างออกไปด้วยกล่าวว่าแต่เดิมนั้นโคนนทิราช หรือ โคอุศุภราชนี้เป็นเทพบุตรองค์หนึ่งบนสรวงสวรรค์ชั้นฟ้า ซึ่งเทพบุตรองค์นี้ก็มีนามว่านนทิ มีหน้าที่เป็นเทพที่คอยคุ้มครองดูแลบรรดาสัตว์สี่เท้าทั้งปวงที่อาศัยอยู่ในป่าใกล้ๆ กับเขาไกรลาส



และเทพนนทิที่เป็นเทพที่ครองสัตว์จัตุบาททั้งปวงนั้นก็มักจะนิรมิตองค์เองให้กลายเป็นโคเผือก เพื่อให้พระศิวะได้เสด็จประทับไปยังแห่งหนต่าง ๆจนเป็นเสมือนพาหนะประจำพระองค์ไปโดยปริยาย




Fri 5, Nov 2010 06:07:59

ตำนานกำเนิดพระศิวะ

ยุคพระเวท

เรื่องก็มีอยู่ว่าพระพรหมนั้นเกิดความรำคาญอกรำคาญใจเป็นอย่างยิ่งนักที่พระเสโทหรือเหงื่อผลุดซึมทั่วพระวรกายและยังไหลรินย้อยลงทั่วบริเวณพระพักตร์อีกด้วย ในวันอันร้อนอ้าวเช่นนั่น พระพรหมทรงบำเพ็ญภาวนา เพิ่มตบะบารมีให้แกร่งกล้าอย่างมุ่งมั่นเมื่อรู้สึกว่าถูกรบกวนด้วยเหงื่อเช่นนั้นก็จึงได้นำเอาไม้ไปขูด ๆที่บริเวณพระขนงหรือคิ้ว โดยมิได้ระมัดระวังองค์นัก คมของไม้นั้นจึงได้บาดบริเวณพระขนงของพระองค์จนกระทั่งปรากฏพระโลหิตผลุดซึมออกมาและหยาดหยดลงบนกองเพลิงเบื้องหน้าของพระองค์นั้นเอง

ทันทีที่พระโลหิตหยาดหยดลงในเปลวเพลิงก็พลันเกิดเป็นเทพบุตรองค์หนึ่ง จุติขึ้นมาในเปลวเพลิงนั้น ทันทีที่ถือกำเนิดขึ้นมาเบื้องหน้าพระองค์เทพบุตรผู้งดงามองค์นี้ก็ได้ร้องไห้ พลางขอให้พระองค์ประทานชื่อให้แก่ตน ซึ่งพระพรหมได้ประทานชื่อให้ถึง 8 ชื่อ ด้วยกันดังนี้

ภพ สรรพ ปศุบดี อุดรเทพ มหาเทพ รุทร อิศาล อะศะนิ

หลังจากนั้นเทพองค์นี้ก็มีชื่อเสียงโด่งดังเป็นที่นับถือของมนุษย์ทั่วไป โดยส่วนใหญ่แล้วบรรดามวลมนุษย์จะนับถือบูชาเทพบุตรองค์นี้ในนามของพระรุทรอันเป็นชื่อ ๆหนึ่งใน 8ชื่อนี้ ซึ่งนามรุทรนี้มีความหมายแปลได้ว่า ร้องไห้ แต่สำหรับชื่ออื่น ๆ อีก7 ชื่อนั้นยังไม่เป็นที่นิยมแพร่หลายเท่าไรนัก

ว่ากันว่าพระรุทรเทพบุตรที่มีชื่ออันแปลว่าร้องไห้นี้เป็นมหาเทพที่มีความยิ่งใหญ่เกรียงไกรมีอำนาจบารมีค่อนข้างสูงนักในยุคพระเวทนี้ และยังเป็นเทพที่มนุษย์ทุกผู้ทุกนามนิยมนับถือบูชากันอย่างจริงจังทั่วไปโดยนับถือให้พระรุทรเป็นเทพผู้ทำลายล้าง คือทำลายสิ่งที่เลวร้ายให้สะอาดบริสุทธิ์ขึ้นมาอีกครั้งหนึ่ง หรือหมายถึงการทำลายสิ่งเลวให้เกิดสิ่งที่ดีงามขึ้นใหม่




ยุคมหากาพย์ มหาภารตะ

ในยุคนี้มีความเชื่อกันในเรื่องกำเนิดพระศิวะว่า พระองค์นั้นทรงจุติออกมาจากพระนลาฏ หรือหน้าผากของพระพรหมจึงเท่ากับว่าพระศิวะก็เป็นพระโอรสองค์หนึ่งของพระองค์มหาเทพ

ยุคไตรเภท

คัมภีร์ในยุคนี้ได้บันทึกถึงกำเนิดพระศิวะว่า ทรงประสูติจากพระนางสุรภี และพระบิดาก็คือพระกัศยปะเทพบิดร




พระมเหสี

Tue 2, Nov 2010 05:38:12

พระศิวะทรงมีเอกอัครมเหสีคือ พระแม่อุมามหาเทวี หรือชาวฮินดูนิยมเรียกกันว่าพระนางปาราวตี ซึ่งเป็นอิตถีเทพ ที่งดงามเป็นยิ่งนัก และยังเป็นเทพเทวีที่มีผู้คนนิยมบวงสรวงบูชามากมายว่าเทพนารีองค์อื่นองค์ใด

พระแม่ปราวตีหรือพระแม่อุมามหาเทวีนี้นั้น เป็นมเหสีคู่พระทัยของพระศิวะ ซึ่งปรากฏอยู่ในทุกคัมภีร์ทุกตำราเลยทีเดียว ด้วยเพราะพระศิวะนั้นไม่ปรากฏว่าจะมีพระชายาอีกมากมายดังมหาเทพองค์อื่น ๆ


พระศิวะมีเพียงพระคงคาและพระนางสนธยาเท่านั้นที่เป็นพระชายาคู่บารมีอีก 2 พระนาง พระแม่คงคานั้นแต่เดิมก็เป็นพระชายาองค์รอง ๆของพระนารายณ์หรือพระวิษณุ ซึ่งเมื่อได้มีเรื่องมีราวขัดแย้งบาดหมางกันระหว่างบรรดาพระชายาพระวิษณุ จนก่อเหตุให้เกิดความเดือดร้อนรำคาญใจ พระวิษณุจึงได้นำพระแม่คงคามาถวายให้เป็นพระชายาของพระศิวะ

และพระแม่คงคานั้นโดยแท้จริงแล้วเป็นพระพี่นางของพระแม่อุมาอัครมเหสีของพระศิวะอีกด้วย

ส่วนพระนางสนธยานั้นเป็นธิดาของพระพรหม มหาเทพอีกพระองค์หนึ่ง ซึ่งมีความผิดในเรื่องใดเรื่องหนึ่ง จนเป็นเหตุให้พระพรหมผู้เป็นบิดาทรงกริ้วนัก และปรารถนาที่จะลงโทษพระธิดาสนธยาอย่างหนัก ซึ่งพระธิดาก็เกรงกลัวที่จะถูกลงโทษทัณฑ์ จึงได้แปลงกายเป็นนางเนื้อหลบลี้หนีพระบิดาไปเสีย

พระพรหมเองก็ไม่ยอมลดละ ด้วยความกริ้วถึงกับนิรมิตองค์เป็นกวางตามนางเนื้อไปในทันที พระศิวะได้ทรงบังเอิญมาพบเห็นเข้า ก็จึงได้มีความเห็นใจพระธิดาสนธยา ครั้นจะห้ามปรามพระพรหมผู้เป็นบิดาของพระนางสนธยาก็ดูจะกระไรอยู่ จึงได้ยับยั้งความกริ้วของพระพรหมในครั้งนั้นด้วยการแผลงศรไปถูกเศียรกวางขาดกระเด็น

เมื่อพระพรหมกลับคืนมาสู่ร่างเดิม ก็จึงได้คลายความโกรธ และพระศิวะก็ได้พูดคุยกับพระพรหมให้ยกโทษให้กับพระธิดา และการขออภัยโทษแก่พระนางสนธยานั้นคงจะไม่เป็นการสำเร็จโดยง่าย พระศิวะจึงได้ใช้วิธีทูลขอพระนางสนธยามาเป็นพระชายา

ด้วยความเกรงอกเกรงใจกัน พระพรหมจึงได้ยินดียกพระธิดาให้ไปเป็นพระชายาของพระศิวะ ด้วยเหตุนี้เองที่พระธิดาสนธยาจึงไม่ต้องถูกพระบิดาลงโทษ ดังนั้นจึงเห็นได้ว่าการที่มีพระชายาเพิ่มขึ้นมานั้นไม่ได้เป็นเพราะพระศิวะออกไปแสวงหาด้วยความมากรักหลายใจแต่อย่างใด

บูชา : 600 บาท
ข้อมูลการติดต่อ : พันธ์ทิพย์ วัยนิพลี
093-2480159 ang7kong@gmail.com
จำนวนผู้เปิดชม : 1187 ครั้ง
โพสเมื่อ : 2012-04-30 23:37:11
ปรับปรุงล่าสุด : 2012-04-30 23:37:11
Share ข้อมูล :
สอบถามเกี่ยวกับวัตถุมงคลนี้
ชื่อผู้โพส
E-mail
โทรศัพท์
ข้อความ
Code ยืนยันการโพสโค้ดยืนยันการโพส
ชื่อร้าน : ANTIG 19
โดย : พันธ์ทิพย์ วัยนิพลี
ที่อยู่ติดต่อ : 491 หมู่ที่ 7 ต.สมอเเข อ.เมือง จ. พิษณุโลก 65000
หมายเลขโทรศัพท์ : 093-2480159
E-Mail ติดต่อ : ang7kong@gmail.com
URL ของร้าน : http://antigpra.com/shop/antignineteen/
 ธนาคารกสิกรไทย :   สาขา ถนนสายเอเซีย  
ประเภทบัญชี : ออมทรัพย์/สะสมทรัพย์
ชื่อบัญชี : นายอุดร เหลืองวิชชเจริญ  
หมายเลขบัญชี : 4032253429